ทำอย่างไรให้เราทุกคนเป็นครูที่ดีกว่าเดิมได้


Better teachers
0

เมื่อพูดถึงคำว่า “สอน” เราทุกคนคงจะนึกถึง คุณครูที่ยืนพูดอยู่หน้าห้อง แต่คำว่า “สอน” นั้นจริงๆแล้วไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องเรียนเสมอไป เพราะเราทุกคนล้วนเคยผ่านการสอนมาแล้วไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการสอนลูก สอนลูกน้อง หรือสอนเพื่อน ยิ่งสำหรับคนที่สอนเป็นมืออาชีพอยู่แล้วนั้น การสอนถือเป็นอาชีพที่เติมเต็มชีวิตเลยทีเดียว เพราะเรามอบประโยชน์โดยตรงให้กับผู้อื่น เป็นหนึ่งในอาชีพที่มีคนยอมเสียเงินให้เรา พร้อมคำขอบคุณ

 

แต่การจะเป็นคนสอนที่ดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ลองอ่านเคล็ดลับของการเป็นคนสอนที่ดีในบทความนี้ดู แล้วคุณจะรู้เลยว่า เราทุกคนสามารถมอบสิ่งดีๆให้กับคนอื่นได้

 

 

1. รู้เรื่องที่จะสอนให้ดี

 

ก่อนเราจะสอนใครได้ เราจำเป็นที่จะต้องมีความรู้ในเรื่องที่จะสอนก่อน รวมไปถึงการเตรียมตัวเรื่องวิธีสื่อสาร เพื่อทำให้เนื้อหาที่ยากต่อการเข้าใจเป็นเรื่องที่เข้าใจง่ายสำหรับทุกคน สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการคาดการณ์ล่วงหน้าว่านักเรียนจะมีคำถามอะไร และการเตรียมคำตอบที่ให้ความกระจ่างแก่นักเรียน ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับการทำการบ้านและการเตรียมตัวก่อนสอนของผู้สอนแต่ละคน นักพูดที่เก่งกาจทุกคนล้วนซ้อมอย่างหนักหลายวัน ก่อนจะขึ้นพูดจริงบนเวที เริ่มตั้งแต่ การทำวิจัยหาข้อมูล การเตรียมคำพูด จนถึงการเตรียมการแสดงบนเวที ถ้านักพูดเหล่านั้นเตรียมตัวกันอย่างหนักเพื่อจะพูดเพียง 15-30 นาที อาจารย์ก็ควรจะต้องเตรียมตัวอย่างหนักเช่นกันก่อนการสอนของตัวเอง

 

 

2. หาเรื่องเล่าที่ดี

 

หมดยุคสำหรับการสอนตามหนังสือแล้ว การสอนที่ดีและน่าสนใจ จำเป็นที่จะต้องมีเรื่องเล่ามาประกอบ เพื่อให้คนเรียนรู้สึกสนุกตาม และที่สำคัญ “เพื่อให้คนเรียนเห็นภาพตาม” และเป็นการยืนยันว่าความรู้ที่ได้รับนั้นสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จริงๆ การสอนวิธีการเพิ่มยอดขายในการทำธุรกิจ จะไม่มีประโยชน์เลยถ้าวิธีนั้นไม่เคยถูกนำไปมาก่อน หรือไม่มีหลักฐานยืนยันว่ามันใช้ได้จริง จะดีที่สุดถ้าผู้สอนสามารถเล่าจากประสบการณ์ตรงของตัวเอง เพราะการเล่าจากประสบการณ์ตรงมีโอกาสที่จะทำให้ผู้เรียนเห็นภาพตามได้ง่ายที่สุด แต่ถ้าผู้สอนไม่มีประสบการณ์ตรงในด้านนั้น อย่างน้อยก็ควรหา case study หรือตัวอย่างจากชีวิตจริงมาประกอบ เราทุกคนชอบที่จะฟังเรื่องเล่า เหมือนกับที่คนเราชอบอ่านนิยาย ดูละคร หรือชมภาพยนตร์ การเรียนรู้ก็ไม่ต่างกัน

 

 

3. ใจเย็น

 

ผู้สอนมักอาจเกิดความหงุดหงิดเมื่อผู้เรียนไม่เข้าใจเนื้อหา ทั้งๆที่ตนก็ได้อธิบายทุกอย่างเท่าที่สามารถทำได้แล้ว แต่อย่าลืมว่านักเรียนแต่ละคนมาด้วยภูมิหลังที่แตกต่างกัน บางคนเรียนรู้เร็ว บางคนช้า บางคนมีความรู้ด้านนี้มาก่อน บางคนไม่มี สิ่งสำคัญที่ผู้สอนที่ดีทุกคนต้องมีคือ ความใจเย็น เอาใจเขามาใส่ใจเรา และเข้าใจว่าทุกคนไม่ได้เกิดมาแล้วจะพร้อมทุกอย่าง ที่สำคัญ แทนที่จะเน้นในเรื่องการอธิบายจนผู้เรียนเข้าใจ ผู้สอนควรพยายามเปิดเวทีให้คนเรียนลองถามคำถามในเรื่องที่เขาไม่เข้าใจ

 

 

4. การสอนต้องไม่จบที่การสอน

 

ครูสอนที่ดีไม่เคยมองว่าการสอนเป็นอาชีพ ไม่ได้มาพูดอย่างเดียว แล้วก็จบแค่นั้น ผู้สอนทีดีจะมีความต้องการที่จะใช้การสอนในการช่วยเหลือคนจริงๆ ต้องการให้ชีวิตเขาดีขึ้น หรือช่วยแก้ปัญหา ผู้สอนจึงควรให้การสนับสนุนหลังจากเรียนเสร็จ คอยให้คำปรึกษา หรือตอบคำถามที่มี เพราะความรู้ที่ได้รับในห้องเรียน กับชีวิตจริงนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

 

 

5.  พัฒนาตัวเองตลอดเวลา

 

ไม่มีใครเกิดมาแล้วเป็นครูที่เพอร์เฟคแต่กำเนิด ทุกอย่างล้วนผ่านการฝึกฝนซ้ำแล้วซำ้เล่า ไม่ว่าจะสายงานไหนก็ตาม Malcolm Gladwell เคยเขียนในหนังสือ “Outliers” ว่า การจะประสบความสำเร็จในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จะต้องผ่านฝึกฝนไม่ต่ำกว่า 10,000 ชั่วโมง โดยเขายกตัวอย่าง “บิล เกตส์” ผู้ก่อตั้งบริษัท Microsoft ที่ผ่านการฝึกฝนเขียนโปรแกรมกว่า 10,000 ชั่วโมง จนมีเขาในทุกวันนี้ หรืออย่างนักกีฬาและนักดนตรีชื่อดังหลายๆคน การจะเป็นคนที่เก่งกาจในสายงานด้านการสอนก็คงหนีไม่พ้นการฝึกฝนอย่างหนักเช่นกัน ครูทุกคนสามารถเริ่มต้นการพัฒนาตัวเองได้ จากการเปิดโอกาสให้นักเรียนวิจารณ์และให้คำแนะนำถึงวิธีการสอนของตน และนำคำชี้แนะเหล่านั้นมาพัฒนาและฝึกฝนตัวเอง

 

 

0