5 ข้อคิดทางธุรกิจที่ได้จากฟุตบอลโลก 2014


5 business lessons from world cup 2014
0

ทุกๆสี่ปี ทุกสายตาบนโลกหันเข้าหาจอทีวีเพื่อดู 32 ประเทศแข่งขันเพื่อความเป็นที่หนึ่งในศึกลูกหนัง เหมือนทุกครั้ง ฟุตบอลโลกปีนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความสนุก ดราม่า และสีสันสดใส จึงไม่แปลกเลยที่กีฬาฟุตบอลเป็นกีฬาที่มีความนิยมมากที่สุดในโลก นอกจากมันจะให้ความบันเทิงกับพวกเราแล้ว ถ้าเราลองนั่งคิดดีๆมันก็ให้ข้อคิดทางธุรกิจเหมือนกันนะ มาดูกันครับว่า 5 ข้อคิดที่ได้คืออะไร

1) ทีมที่ดีไม่ได้มีแค่ผู้เล่นคนหนึ่งหรือสองคน 

(บราซิลพ่ายแพ้อย่างย่อยยับต่อเยอรมันนี)
เป็นเรื่องช็อควงการมากที่บราซิลพ่ายแพ้เยอรมันนี 1-7 ในศึกฟุตบอลโลกรอบสี่ทีมสุดท้าย ใครหละจะเชื่อว่าทีมอย่างบราซิล ที่เคยถือถ้วยถึงห้าครั้ง จะแพ้ยับขนาดนี้ ทั้งๆที่เล่นในบ้านตัวเอง ได้เปรียบทั้งเรื่องอากาศและเสียงเชียร์ หนึ่งในสาเหตุหลักที่บราซิลแพ้นั้นคงหนีไม่พ้นกับการที่สองผู้เล่นหลักอย่าง เนย์มาร์ และทิอาโก ซิลวา ไม่ได้ลงสนาม เกมบุกบราซิลถึงกับยิงทิ้งยิงขว้าง จูนศูนย์กันไม่เป็น เกมรับมีช่องโหว่มากมาย เหมือนกับถวายประตูให้กับฝั่งตรงข้าม ในทางตรงกันข้าม เยอรมันนี ไม่มีผู้เล่นคนไหนที่โดดเด่นออกหน้าออกตา ทุกคนเล่นกันเป็นทีม ผู้เล่นสามารถไว้ใจผู้เล่นอีกคนได้ตลอดเวลา และผลที่ออกมาก็เป็นแบบที่เราเห็น

ธุรกิจควรจะต้องเอาอย่างเยอรมันนีที่ไม่ได้หวังพึ่งคนใดคนหนึ่ง แต่กลับมีทีมที่ทำงานร่วมกันอย่างดิบดี และต่างคนต่างมีความสามารถที่จะรับผิดชอบในงานของตัวเอง เกิดใครคนไหนต้องลางานไป บริษัทก็หาคนมาทดแทนได้ ในทางตรงกันข้าม ธุรกิจที่ฝากความคาดหวังไว้กับคนๆหนึ่ง มีความเสี่ยงสูงถ้าวันใดวันหนึ่งเกิดอะไรขึ้นกับซุปเปอร์สตาร์คนนั้น

2) จะคิดการใหญ่ต้องกล้าที่จะเดิมพัน 

(หลุยส์ ฟาน กัล เปลี่ยนตัวทิม ครูล ในนาทีสุดท้ายเพื่อมาเซฟจุดโทษ)
นับเป็นไพ่ที่ไม่เคยใช้มาก่อนในศึกฟุตบอลโลกกับการเปลี่ยนผู้รักษาประตูที่ไม่ได้รับบาดเจ็บหรือเล่นผิดพลาด ในเกมส์ฟุตบอลนั้น ผู้จัดการทีมสามารถแก้เกมและเปลี่ยนแทคติกโดยการเปลี่ยนตัวผู้เล่นได้แค่สามคน ซึ่งโดยปกติเหล่ากุนซือก็จะเปลี่ยนครบทั้งสามคน แต่ไม่มีใครเคยคิดที่จะเปลี่ยนตัวผู้รักษาประตู เพราะโอกาสที่ผู้รักษาประตูจะสร้างผลกระทบต่อการเล่นนั้นมีน้อยมากๆ ฉะนั้น การที่หลุยส์ ฟาน กัล เปลี่ยนผู้รักษาประตู ทิม ครูล ลงมาแทน แยสเปอร์ ซิลเลสเซ่น ในนาทีที่ 120+1 ด้วยสาเหตุว่าเพียงว่า ทิม ครูล เซฟจุดโทษได้ดีกว่า แสดงให้เห็นถึงความกล้าได้กล้าเสีย ใช้แผนที่ถูกที่ถูกเวลา และการคิดนอกกรอบ ผลที่ออกมาคือ ทิม ครูล สามารถเซฟลูกโทษได้ถึงสองลูก ทำให้เนเธอร์แลนด์ชนะคอสตาริก้า ผ่านเข้ารอบสี่ทีมสุดท้าย แน่นอนว่า ถ้าเนเธอร์แลนด์แพ้การดวลจุดโทษ หลุยส์ ฟาน กัล อาจถูกประนามว่าใช้กลยุทธ์ผิดพลาด แต่การเข้าสู่รอบสี่ทีมสุดท้ายในศึกกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกนั้น คุ้มค่าต่อการเดิมพัน 

ในธุรกิจก็เช่นเดียวกัน เมื่อใดที่เราอยู่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน เราจำเป็นที่จะต้องมีความเด็ดเดี่ยวและกล้าที่จะลงมือทำ และไม่คอยพะวงกับผลลัพท์ที่จะออกมา ถ้าเราคอยครึ่งๆกลางๆโอกาสของเราอาจจะหลุดลอยไปได้

3) ปลาตัวเล็กสู้ปลาตัวใหญ่ได้ ถ้ามีแทคติกและวินัยที่ดี

(คอสตาริก้า กรีซ และสหรัฐอเมริกาผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย)
ฟุตบอลโลกปีนี้ถือว่าเป็นปีทองของเหล่า underdog หรือทีมรองบ่อนก็ว่าได้ หลายทีมที่เข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นทีมที่หลายคนคาดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นคอสตาริก้า กรีซ หรือสหรัฐอเมริกา ที่ผ่านกลุ่มหฤโหดเข้ามาสู่รอบน๊อคเอาท์ แต่ทีมแกร่งๆที่เต็มไปด้วยนักเตะดังๆอย่าง อิตาลี อังกฤษ และโปรตุเกส กลับตกรอบแรกกันถ้วนหน้า ถ้าเราลองสังเกตุการเล่นของเหล่า underdog ทั้งหลาย จะเห็นว่าพวกเขามาพร้อมกับแผนการเล่นที่วางมาอย่างดี และนักเตะทุกคนก็มีวินัยที่จะเล่นตามแทคติกที่วางไว้ อย่างคอสตาริกาที่สามารถเข็นเนเธอร์แลนด์ไปถึงการดวลจุดโทษในรอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยใช้แผนกับดักล้ำหน้า เพราะรู้ถึงสไตล์การเล่นของเนเธอร์แลนด์ที่อาศัยการจ่ายบอลทะลุช่องและปีกความเร็วสูงอย่างอาร์เยน ร็อบเบน ทำให้เนเธอร์แลนด์เสียล้ำหน้าถึง 13 ครั้ง

เรื่องนี้บอกให้เรารู้ว่ามันไม่จำเป็นเสมอไปที่บริษัทใหญ่จะเป็นผู้ชนะเสมอ บริษัทที่เล็กกว่า มีทุนน้อยกว่า หรือประสบการณ์น้อยกว่า สามารถเอาชนะได้ถ้าวางกลยุทธ์มาดี และตราบใดที่คนในองค์กรมีวินัยและความสามัคคี ขึ้นก็ขึ้นพร้อมกัน ลงก็ลงพร้อมกัน อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ 

4) จะใช้คนต้องใช้ให้เป็น

(นักเตะที่ฉายแสงในฟุตบอลโลก หลังจากล้มเหลวที่สโมสร)
ในศึกฟุตบอลโลกปีนี้ นักเตะหลายๆคนที่เคยถูกตราหน้าว่าเป็นความล้มเหลวสมัยเล่นให้กับสโมสร กลับมาเล่นให้กับทีมชาติได้ดีขึ้นแบบผิดหูผิดตา ไม่ว่าจะเป็น โจวานนี โดส ซานโตส ปีกตัวสำคัญของเม็กซิโก ที่เคยตกอับที่ ท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์ มารูยาน เฟลไลน์นี่ กองกลางตัวหลักของเบลเยี่ยมที่ก่อนหน้านี้เป็นเหมือนตัวตลกที่แมนยู หรืออย่าง ไบรอัน หลุยซ์ ที่ตกชั้นไปพร้อมกับฟูแล่ม แต่ในศึกนี้เขาเป็นกัปตันนำคอสตาริก้าเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย นักเตะเหล่านี้ไม่ได้อยู่ๆก็เก่งขึ้นอย่างกระทันหันในช่วงฟุตบอลโลก เพียงแต่พวกเขาได้มาเล่นกับทีมที่มีสภาพแวดล้อมและองค์ประกอบที่เหมาะสมกับพวกเขามากกว่าต่างหาก 

เป็นเรื่องธรรมดาที่องค์กรจะต้องมีบุคลากรที่ไม่สามารถทำงานตามที่คาดหวังไว้ แต่ก่อนที่เราจะติดสินใจมองเขาว่าเป็นความล้มเหลวหรือไล่เขาออกจากองค์กรนั้น เรามาลองนั่งคุยกับเขา เพื่อรู้นิสัยใจคอและสไตล์การทำงาน เพื่อที่จะช่วยให้เขาทำงานได้ดีขึ้นดีกว่า

5) ความสามารถไม่ได้นำมาซึ่งความสำเร็จ

(สเปนตกรอบตั้งแต่สองนัดแรก)
สเปนแชมป์โลกและแชมป์ยุโรปล่าสุด มีผู้เล่นที่เก่งระดับโลกครบทุกตำแหน่ง แม้กระทั่งมองไปที่ม้านั่งสำรองก็ยังเห็นแต่ซุปเปอร์สตาร์ทั้งนั้น ใครๆก็มองว่าเสปนเป็นตัวเต็งในฟุตบอลโลกปีนี้ แต่เสปนกลับกลายเป็นทีมแรกๆที่ต้องแพ็คกระเป๋ากลับบ้านไปอย่างน่าผิดหวัง หลังจากพ่ายแพ้อย่างดูไม่จืดในสองนัดแรก 

กูรูทั่วโลกพยายามหาสาเหตุถึงความล้มเหลวของเสปนในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น อายุของผู้เล่นที่มีค่าเฉลี่ยถึง 28.24 ปี สไตล์การเล่นที่ซ้ำไปซ้ำมาเหมือนปีก่อนๆ ความอิ่มตัวในชัยชนะ หรือความโชคร้ายที่ถูกจับมาอยู่ในกลุ่มโหด ไม่ว่าสาเหตุจะเป็นอะไร สิ่งที่ธุรกิจสามารถเรียนรู้ได้จากเรื่องนี้คือ ความสามารถไม่ใด้เป็นปัจจัยที่การันตีความสำเร็จ ธุรกิจจำเป็นที่จะต้องมีมากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์ ความมุมานะตั้งใจ รวมถึงโชคด้วย

ทุกงานเลี้ยงต้องมีวันเลิกลา ท้ายที่สุดมหกรรมลูกหนังก็มาถึงบทสรุป ถึงแม้ว่าความบันเทิงจะหายไปแต่ข้อคิดที่เราได้นั้นถือเป็นบทเรียนที่เราสามารถนำมาใช้ในธุรกิจของเราได้ตลอด คราวหน้ามีอีเว้นท์อะไรใหม่ๆก็อย่าเน้นที่ความบันเทิงอย่างเดียวนะครับ ลองคิดลึกๆถึงบทเรียนทางธุรกิจกันบ้างนะ

0