โปรเจค “The Better” โอกาสและประวัติศาสตร์ใหม่ในการเรียนรู้ที่ดีที่สุดเพื่อให้คุณเป็นคนที่ดีกว่า กว่าที่คุณเคยเป็นมาในชีวิตนี้!

สิ่งที่คุณมีมาแต่เดิม...อาจพาคุณจากจุด A มาจุด B แบบทุกวันนี้ได้ แต่ถ้าคุณอยากไปต่อให้ไกลกว่านี้ บางทีสิ่งที่พาคุณจากจุด A มาจุด B อาจไม่เพียงพอที่จะพาคุณไปต่อจากจุด B ไปจุด C แล้ว นี่ไม่ต้องพูดถึงไปจุด Z นะ แค่จุด C ยังไปต่อไม่ได้แล้วเลย

คำถามสำคัญก็คือ ถ้าเราอยากไปต่อ อยากมีชีวิตที่ดีกว่านี้ล่ะ ต้องทำยังไง?
คำตอบมีเพียงหนึ่งเดียว คือ คุณต้องพัฒนาตัวเองให้เก่งกว่านี้ ให้เจ๋งกว่านี้ ยิ่งอยากไปต่อได้ไกลเท่าไหร่ ก็ต้องยิ่งมีทักษะ มีความรู้มากกว่าที่เคยเป็นมามากเท่านั้น!

และแหล่งที่จะทำให้คุณได้ความรู้ที่ดีที่สุดในโลกนี้คือการอ่านหนังสือเนี่ยแหละ! และไหน ๆ จะอ่านทั้งทีแล้ว มาอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเจ๋ง ๆ กันเลยดีกว่า!
(คนสำเร็จในไทยที่ผมรู้จักเป็นการส่วนตัว ล้วนแต่รักการอ่านทั้งนั้นและแทบทุกคนอ่านหนังสือต่างประเทศเป็นหลักทั้งนั้น!)

แต่ปัญหาคือหลายคนภาษาอังกฤษยังไม่คล่องนัก และหลายคนมีปัญหาในเชิง Budget เพราะหนังสือภาษาอังกฤษที่ถูกนำเข้ามาในไทยช่างแพงเหลือเกิน (ตกเล่มละ 500 บาท ขึ้นไปถึงหลายพันบาท) สำหรับบางคนที่ไม่มีปัญหาเรื่องภาษาและ Budget แต่กลับมีปัญหาเรื่องเวลา ที่ทำงานหนักจนไม่มีเวลาได้อ่านหนังสือเลย ลองจินตนาการดูสิครับว่าถ้าจะมีคนมาเล่าไอเดียเจ๋ง ๆ ที่ตกผลึก
มาจากหนังสือภาษาอังกฤษดี ๆ ที่เป็น International Best Seller จากทั่วทุกมุมโลก ในภาษาที่ง่ายที่สุด กระชับที่สุด และสนุกที่สุด ในราคาที่คุณจับต้องได้ หนึ่งสุดยอดไอเดียเงินล้านที่คุณได้เรียนรู้มันในราคาเท่ากับก๋วยเตี๋ยวหนึ่งชาม มันจะดีขนาดไหน

นี่คือที่มาของ โปรเจค “The Better” โปรเจคที่ผม (ครูชัย) ผุดขึ้นมา อยากแชร์ไอเดียจากการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเจ๋ง ๆ สัปดาห์ละ 1 เล่ม เล่มหนึ่งจะตกผลึกออกมาเป็น 7 ไอเดีย ที่จะมาเล่าแชร์ต่อให้ฟังทั้งแบบวิดีโอที่ผมมานั่งเล่าให้ฟังเอง (สำหรับสายฟังและดูภาพ) และแบบไฟล์ pdf (สำหรับสายอ่านโดยเฉพาะ)

ไอเดียจากหนังสือสัปดาห์ละ 1 เล่ม ปีหนึ่งจึงมี 52 เล่ม (ในที่นี้มี 41 เล่ม) แค่ค่าหนังสืออย่างเดียวก็หลายหมื่นจนเกือบเหยียบแสนแล้ว! ไม่นับเวลาอ่านความเร็วปกติของคนทั่วไปที่ว่างอ่านบ้าง ไม่ว่างอ่านบ้าง ไม่ได้ว่างทุกวัน เฉลี่ยมาตรฐานอ่านได้ 1 เล่มต่อเดือน ซึ่งถ้าต้องใช้เวลาถึงจะอ่าน 51 เล่มหมด คือเกือบ 5 ปี นี่ยังไม่นับคนที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษที่จะอ่านได้ช้ากว่าที่คนเก่งภาษาอังกฤษประมาณ 4-5 เท่า นั่นแปลว่าคนนั้นอาจต้องใช้เวลาอ่านหมด 51 เล่ม เกือบถึง 20 ปี!!

แต่ไม่ต้องกังวลเลยประเด็นนั้น รูปหนังสือที่คุณเห็นคือหนังสือที่ล้วนแต่เป็น Super Best Seller ที่ต่างประเทศ หลาย ๆ เล่มโคตรหนา และบางเล่มใช้ภาษาที่อ่านยากเหลือเกิน ผมจะอ่าน ขยี้ ย่อย กลั่น และตกผลึกออกมา แล้วมาเล่าต่อให้คุณฟังเล่มละ 7 สุดยอดไอเดียให้คุณเสพความรู้ เสพมุมคิดจากหนังสือระดับโลกได้ทันที ซึ่งหนังสือ 51 เล่มนั้นจะครอบคลุมแนวจิตวิทยาความสำเร็จ จิตวิทยาความมั่งคั่ง Mindset Leadership Business เน้นการตลาด และการขาย

ตัวอย่างหนังสือ เช่น
- Tipping Point ของ Malcolm Gladwell
- Awaken the Giant within ของ Anthony Robbins
- The 15 Invaluable Laws of Growth ของ John C. Maxwell
- GRIT: The Power of Passion and Perseverance ของ Angela Duckworth
- The Personal MBA ของ Josh Kaufman
- Creativity, Inc ของ Ed Catmull
ทุกเล่มหนังสือเป็นหนังสือที่โคตรดีและเป็น Super Best Seller ระดับโลก ทุกเล่มขายมาได้แล้วหลายล้านเล่ม หลายเล่มติดท๊อปอย่างยาวนาน

หลายเล่มในนี้มหาเศรษฐีระดับโลกหลายคนแนะนำตรงกันให้อ่าน ซึ่งผมจะไปอ่านและสกัดไอเดียที่ผมชอบมาเล่าให้คุณฟังแบบกระชับจับใจและได้ประเด็นที่สุด ซึ่งมันคือชุดความรู้ระดับ World-class ที่มาในครบทุกด้าน ครบถ้วน ครบครัน และมันจะทำให้คุณเก่งขึ้นกว่าเดิมในทันที!

ถ้าใครเคยฝันว่าฉันอยากเก่งกว่านี้ ฉันอยากเป็นคนที่ดีกว่านี้ แต่เพราะมีข้อจำกัดหลายอย่าง ทำให้คุณอยู่กับที่มานานเกินไป หรือเก่งขึ้นไม่ไวเท่าที่ควร ผมเชื่อเหลือเกินว่าโปรเจคนี้คือโอกาสที่ดีที่สุดในชีวิตคุณแล้ว ถ้าคุณเข้ามาฟังทุกสัปดาห์แบบไม่ขาด ปีหน้าคุณจะจำตัวเองไม่ได้เลยและบางไอเดีย เพียงไอเดียเดียว อาจพลิกชีวิตคุณไปตลอดกาล หรือเปลี่ยนธุรกิจคุณไปอย่างสิ้นเชิงเลยก็เป็นได้

มีคำกล่าวหนึ่งจากนักลงทุนระดับโลกบอกว่า การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด ROI สูงที่สุด และมีแต่กำไรไม่มีวันขาดทุน มีแต่จะเพิ่มมูลค่าและอยู่กับคุณไปทั้งชีวิต คือการลงทุนพัฒนาตัวเองเนี่ยแหละ!
อย่าให้เงินหลักพันที่ซื้อตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวได้ครั้งเดียว มาขวางกั้นโอกาสที่ดีสุดในการพัฒนาตัวเองของคุณในครั้งนี้ แล้วเจอกันใน “The Better” นะครับผม