Power BI DAX Advance เขียนสูตร Power BI ให้ได้ดั่งใจ ด้วย DAX ขั้นสูง
โดย ศิระ เอกบุตร ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์และแฟนเพจ ThepExcel ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 1 แสนคน
DAX คืออะไร? ใช้ในโปรแกรมไหน?
DAX ย่อมาจาก Data Analysis eXpression ซึ่งคือสูตรหรือฟังก์ชันที่คล้ายๆ กับสูตรของ Excel แต่ว่าถูกออกแบบมาเพื่อใช้วิเคราะห์ข้อมูลโดยเฉพาะ ทำให้สามารถรองรับการทำงานงานที่ซับซ้อนได้ดีกว่าสูตรปกติของ Excel มาก (เช่น ถ้าทำงานเรื่องเดียวกัน หากใช้สูตร Excel อาจต้องเขียนสูตรซ้อนกัน 5 บรรทัด แต่ DAX อาจเขียนแค่บรรทัดเดียว เป็นต้น)
ซึ่งหากคุณเรียนรู้ DAX แล้วนอกจากจะใช้ในโปรแกรม Power BI ได้แล้ว ยังสามารถเอาไปใช้กับ Power Pivot ใน Excel ได้ด้วย เรียกได้ว่าเรียนรู้ครั้งเดียว ใช้ได้หลายโปรแกรม คุ้มสุดๆ
ทำไมถึงต้องเรียนรู้ DAX ขั้นสูง?
การเขียนสูตร DAX นั้นมีตั้งแต่สูตรง่ายๆ เช่น ใช้ฟังก์ชัน SUM อันเดียวจบ ไปจนถึงสูตรที่ซับซ้อนแบบสูตรเดียวยาวเป็นสิบบรรทัดก็มีให้เห็นได้เยอะแยะ ทั้งนี้มันขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของการคำนวณที่คุณจะต้องทำ
หลายท่านอาจคิดว่าใน Power BI มี Quick Measure ที่สามารถสร้าง DAX Measure อัตโนมัติ แบบนี้ไม่ต้องเขียนสูตร DAX เองก็ได้รึเปล่า? ก็ต้องตอบว่า มีหลายสถานการณ์เหลือเกินที่ Quick Measure ไม่ตอบโจทย์ อีกอย่าง การเรียกใช้ Quick Measure โดยไม่เข้าใจการทำงานของสูตรที่มีสร้างออกมาให้เรา อาจส่งผลเสียในระยะยาวต่อตัวคุณในฐานะของคนทำรายงาน (ที่ไม่ได้เก่งจริง) ก็ได้
สูตรยากๆ แค่ไหนที่บอกว่ายาก?
เราสามารถไปดูตัวอย่างการคำนวณซึ่งต้องอาศัยสูตรที่ซับซ้อนที่มักเจอบ่อยๆ ได้ที่ https://www.daxpatterns.com/ ซึ่งเป็นเว็บที่รวบรวมสูตรเพื่อแก้ปัญหาการทำงานซับซ้อนที่อาจเจอได้บ่อยๆ เอาไว้
เห็นแบบนี้ หลายคนอาจเริ่มสงสัยว่า เอ๊ะ ถ้ามีคนเขียน Pattern ไว้ให้แล้ว แบบนี้ก็ไม่ต้องเขียนเองสิ...
ผมท้าได้เลยว่า แม้ในเว็บจะสอนว่าต้องเขียนสูตรยังไงจึงจะหาคำตอบแบบที่ต้องการได้ แต่ถ้าคุณไม่มีความเข้าใจเรื่อง DAX ลึกซึ้งพอ ไม่มีทางที่จะนำสูตรเหล่านั้นแล้วเอามาประยุกต์กับ Data ของคุณได้เลยครับ ให้ลองอ่านสูตรในเว็บนั้นดูแล้วจะรู้เองครับว่าความรู้เรา ณ ตอนนี้พอหรือยัง?
เราต้องใช้สูตรยากขนาดนี้เลยเหรอ?
แม้ว่า ณ ตอนนี้คุณอาจจะยังเขียนสูตรที่ไม่ต้องซับซ้อนมากก็เพียงพอกับการทำรายงานแล้ว สิ่งหนึ่งที่เป็นจริงอย่างแน่นอนคือ พอคุณเริ่มทำรายงานแบบพื้นฐานได้แล้ว จะมีคนขอให้คุณทำรายงานที่ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ตามกาลเวลา นั่นแปลว่าคุณต้องเขียนสูตรที่ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน และคุณจะหัดการเขียนสูตรยากๆ แบบนี้ตอนไหน ถ้าไม่หัดเสียตั้งแต่ตอนนี้ที่ยังมีเวลาครับ??
เรียนจบแล้วได้อะไร?
หลังจากเรียนจบคอร์สนี้คุณจะมีความสามารถเพิ่มขึ้นมากมาย เช่น สามารถอ่านสูตรในเว็บ https://www.daxpatterns.com/ ได้เข้าใจ สามารถสร้างตารางจำลองขึ้นมาใน Measure ได้แบบ Dynamic และที่สำคัญคือสามารถใช้ DAX สร้างรายงานที่มีความลึกซึ้งมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ซึ่งจะช่วยให้องค์กรสามารถนำข้อมูลไปตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และตรงประเด็นยิ่งกว่าเดิม ซึ่งจะเพิ่มมูลค่าในตัวคุณเองที่มีต่อองค์กรอย่างมหาศาลอย่างแน่นอนครับ
สิ่งสำคัญที่คุณจะได้เรียนรู้ในคอร์สนี้
• ปรับพื้นฐาน Power BI
• การใช้งาน CALCULATE
• Date Table & Time Intelligence
• Context Transition
• DAX กับการปรับ Data Model
• RANKX และ ISINSCOPE
• Top N และ What if Slicer
• ABC Analysis และ Table Function ที่ใช้บ่อย
• แนวคิดของการใช้ Expanded Table
• Extra-WaterFall Chart
• Extra-Fiscal Year
• การวิเคราะห์ Product
• การคำนวณต้นทุนแบบ FIFO
• Extra Tools
• คำนวณ Same Store Sales Growth
• Segment ลูกค้าด้วย RFM Analysis
• ปัญหา Semi-Additive คำนวณยอด Balance
ผู้เรียนควรมีความรู้อะไรมาก่อน?
ควรจะใช้ Power BI แบบพื้นฐานได้แล้ว โดยควรเข้าใจว่า Visual / Measure ต่างๆ เบื้องต้นทำงานยังไง แต่อยากจะเรียนรู้การเขียนสูตร DAX ที่ซับซ้อนมากขึ้นเพื่อสามารถนำเสนอตัวเลขแบบตรงประเด็นที่ต้องการนำเสนอได้เลย
แม้ว่าคุณจะยังเขียนสูตร DAX ไม่เก่งก็สามารถเรียนคอร์สนี้ได้เช่นกัน เพราะจะมีการทวนความรู้พื้นฐานที่จำเป็นให้ก่อนครับ ไม่ต้องกังวลไป
ผู้เรียนจะสามารถได้รับประกาศนียบัตร เมื่อผ่านเกณฑ์ด้านล่าง และสามารถตรวจสอบสถานะของประกาศนียบัตรได้จากเมนู ประกาศนียบัตรของฉัน ในเมนูคอร์สเรียนของฉัน
- เรียนครบ: 100% ของคอร์ส
- ทำPost-Test แบบทดสอบหลังเรียน ได้คะแนนตั้งแต่ 40 คะแนน ขึ้นไป